เพิ่มความแข็งแรงให้กับเฟอร์นิเจอร์และงานบิวท์อินด้วย ไม้โครง

เรียกได้ว่า ไม้โครง เป็นไม้ที่ใช้สำหรับเป็นโครงสร้างหลักสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน งานฉาก โดยจะใช้ขึ้นโครงเพื่อเป็นตัวจับยึดสำหรับตะปูเกลียว ก่อนที่จะใช้ไม้อัด หรือวัสดุอื่นๆ มาประกอบปิดอาจจะแค่เพียงด้านเดียว หรือทั้งสองด้าน เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับเฟอร์นิเจอร์ งานบิวท์อิน ซึ่งประเภทของไม้โครงที่นำมาใช้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ไม้โครงเส้น และไม้โครงจ๊อย

 

มาทำความรู้จักกับประเภทของไม้โครง

1. ไม้โครงเส้น

ไม้ท่อนที่นำมาตัดเป็นเส้นยาวๆ ใช้ในการทำโครงสร้างต่างๆ ซึ่งมีราคาที่แพงกว่าและหายากกว่าไม้โครงจ๊อย และเมื่อใช้ไปนานๆ มีโอกาสบิดง่ายกว่าอีกด้วย

2. ไม้จ๊อย

เป็นไม้เส้นสั้นๆ ที่นำมาต่อกันให้กลายเป็นไม้โครงเส้นยาว ซึ่งมีความแข็งแรงและไม่เกิดการบิดงอเมื่อใช้ไปนานๆ สำหรับไม้จ๊อยจะมี 2 แบบ ได้แก่
-    แบบ Finger-joint ไม้ฟิงเกอร์จ๊อยท์ เป็นไม้ที่มีการประสานกันระหว่างไม้ 2 ชิ้น ที่เห็นเป็นรอยฟันปลา เพื่อต่อให้ไม้มีขนาดยาวมากขึ้น โดยประโยชน์ของการเชื่อมต่อกันคือมีความตรง ไม้ไม่บิดงอ ทำให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน จึงเป็นที่นิยมนำมาใช้เป็นไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ ไม้ตกแต่งภายใน ไม้โครงบิวท์อิน
-    แบบ  Butt-joint เป็นการประสานไม้แบบต่อชน แบบเป็นรอยเส้นตรง โดยยึดไม้ด้วยกาวและเดือยไม้ ใช้วิธีชนไม้เพียงด้านเดียว ทำให้การยึดรอยต่อไม่แข็งแรงมากนัก เหมาะกับงานไม้ที่มีน้ำหนักเบา

ไม้โครงที่นำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ มีชนิดใดบ้าง

1. ไม้ยางพารา ไม้ที่มีความเหนียว แข็งแรง ทนทานสูง สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี มีสีอ่อน สามารถขัดและขึ้นรูปได้ง่าย ยึดเกลียวตะปูได้ดี
2. ไม้โครงสน เป็นไม้ที่เหนียว มีสีอ่อน แต่สามารถบิดงอได้ แต่เป็นไม้ที่เหมาะกับการพ่นสีหรือย้อมสี
3. ไม้เบญจพรรณ เป็นไม้อีกชนิดที่นำมาทำไม้โครงซึ่งเป็นไม้ที่มีความแข็งแรง แต่อาจจะเปราะและหักง่าย
4. ไม้สยา เนื้อไม้เป็นสีน้ำตาลอ่อนปนแดง มีความแข็งแรงและทนทานพอสมควร เหมาะสำหรับใช้ในการนำไปทำโครงเฟอร์นิเจอร์ งานโครงภายใน และทำบ้านประตูหน้าต่าง
5. ไม้ตะเคียน เป็นไม้โครงที่มีความแข็งเหนียว ไม่เกิดการบิดงอ เนื้อไม้มีความละเอียด สีออกเหลืองอ่อน การยึดเกาะของเกลียวปล่อยดี
6. ไม้ตะแบก อีกหนึ่งไม้โครงที่ถือว่าเกรดดี มีความแข็งแรงมากเหนียว ไม่หักไม่โค้งงอ ไม่แอ่น สามารถตัดทำงานได้ง่าย
7 . ไม้สักสวนป่า ไม้สักที่มีเนื้อความนิ่ม แต่มีความแข็งแรง ไม้โครง ช่างไม้ส่วนใหญ่มักนำมาใช้ เพราะสามารถใช้งานได้หลายแบบ ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง
8. ไม้สักเนื้อ ไม้โครงจากไม้สักเนื้อที่นำมาใช้งานจะมีอายุมากกว่า ทำให้ไม่เสี่ยงในเรื่องของปลวกกิน ทั้งนี้ไม้สักเนื้อมีเนื้อนิ่มกว่า สามารถตั้งตรงได้โดยไม่บิดงอ แต่จะมีราคาที่แพง

 

ไม้โครง ใช้ทำอะไรได้บ้าง

หากกล่าวถึงการใช้งานของไม้โครง ควรเลือกใช้งานตามความเหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วช่างไม้หรือโรงงานเฟอร์นิเจอร์มักจะนำไม้โครงมาใช้เพื่อผลิตงานหลากหลายแบบ เช่น
- ใช้ทำโครงตู้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้อัดยางกันน้ำ จะต้องมีการขึ้นโครงภายในเพื่อความแข็งแรงของตู้ ให้เป็นที่ยึดสำหรับเกียวตะปูและไม้ที่นำมาผิดทับ
- ใช้ทำโครงผนังบิวท์อิน ใช้ไม้โครงในการขึ้นโครงก่อนนำไม้อัด MDF มาปิดทับ
- ใช้ทำโครงฝ้าเพดาน สำหรับฝ้าเพดานที่มีการตกแต่งไม่ว่าจะด้วยกระจก หรือลามิเนต ก็ควรใช้ไม้โครงเพื่อเป็นโครงสร้าง เนื่องจากมีความแข็งแรงมากกว่าโครงแบบ C-Line ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า
- ใช้ทำระแนง ในการตกแต่งแบบระแนง สามารถนำไม้โครงมาใช้ในการตกแต่งได้ โดยอาจจะใช้ไม้โครงยางพาราเพราะมีสีอ่อนจึงขับสีย้อมให้เด่นชัดได้ง่าย

ทั้งนี้ไม้โครงมีหลายชนิด ซึ่งคุณสมบัติของไม้แต่ละชนิดก็แตกต่างกันออกไป การเลือกใช้งานควรเลือกใช้อย่างเหมาะสมเพื่อความแข็งแรงและความสวยงามของงานเฟอร์นิเจอร์ งานบิวท์อิน หากท่านกำลังมองหาไม้โครงคุณภาพดี ราคาเป็นไม่แพง บริษัท หาญวิวัฒน์ค้าไม้ จำกัด เรามีโรงงานไม้แปรรูป ขายส่งไม้ทุกชนิด ไม้ตกแต่งภายใน ไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ ไม้แปรรูปหลากชนิดให้ได้เลือกสรรไปใช้งาน

------------------------------------------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง
- เลือกใช้งานไม้ตกแต่งภายในประเภทไหน ให้เหมาะกับบ้านใหม่ของคุณ
- เคล็ดลับการดูแลรักษาไม้ทำเฟอร์นิเจอร์อย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน
- ไม้อัด MDF คืออะไรและมักถูกนำมาใช้งานด้านใด